แต่ตื่นทั้งหมู่บ้าน อยู่ดีๆเด็ก 14 ก็ตาย พอดูที่ตัวไม่ได้โดนกัด แต่โดนสิ่งนี้จากสุนัข
วันที่ 16 มี.ค. หลังมีรายงาน ผู้ป่วยเพศหญิง ชื่อ เด็กหญิง ชลธาร ช่วยแสง หรือน้องต่าย อายุ 14 ปี ชาวต.หูทำนบ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนบ้านสุขสำราญ อ.ปะคำ มารับการรักษาที่โรงพยาบาลปะคำ ในเบื้องต้นแพทย์วินิจฉัยสงสัยป่วยเป็นโรงพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ผู้ป่วยได้เสียชีวิต 01.00 น. วันที่ 17 มีนาคม 2561 ต่อมามีการยืนยันจากทางสาธารณสุขว่า เสียชีวิตจากการติดเชื้อพิษสุนัขบ้า เป็นรายที่ 6 ของประเทศ
ในเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนางสมยงค์ ช่วยแสง อายุ 43 ปี อาชีพทำนา แม่ของเด็กหญิงซึ่งมีลูกสาวเพียงคนเดียวว่า โดยในช่วงปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ด.ญ.ต่าย ได้ไปรำร่วมขบวนเดินไปตามถนน แล้วมีหมาตัวหนึ่งมางับที่มือ โดยที่เด็กบอกว่า หมากัดไม่เข้า
ต่อมา วันที่ 15 มีนาคม เด็กหญิงนอนซม ตัวร้อนจัด แม่จึงต้มน้ำให้อาบ วันที่ 16 มีนาคม เด็กหญิงบอกแม่ว่าแน่นหน้าอก แม่จึงไห้กินยาพาราเพราะคิดว่าไม่สบายธรรมดา จนกระทั่งตี 1 คืนนั้น ลูกร้องเสียงดังบอกว่าเจ็บหน้าอกหายใจไม่ออก ตี 5 ลูกเริ่มมีอาการคันตามตัวเหมือนเป็นลมพิษ จึงรีบพาลูกไปโรงพยาบาล แต่ไม่อยากรอจึงพาลูกไปคลินิก ได้ฉีดยาลดไข้และยาขยายหลอดลม
“หลังจากนั้นอีก 3 ชั่วโมง อาการของลูกไม่ดีขึ้น จึงกลับไปโรงพยาบาลอีกครั้ง หมอให้อยู่รักษาตัวดูอาการที่โรงพยาบาลปะคำ แต่พอตี 1 วันที่ 17 มีนาคม 2561 ลูกก็เสียชีวิต โดยแพทย์จากโรงพยาบาลบุรีรัมย์ได้เข้ามาชันสูตรพิสูจน์ศพเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง”
ส่วนสุนัขตัวที่มางับมือของลูกมีชาวบ้านบอกว่าได้ช่วยกันตีสุนัขตัวนั้นเพราะเป็นสุนัขบ้า แต่ตัวเองไม่รู้เรื่อง มารู้เอาเมื่อลูกสาวมีอาการสงสัยว่าจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว
ด้านนายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอปะคำ ได้ขอความร่วมมือและทำความเข้าใจ กรณีประชาชน เกิดความตื่นตระหนกที่มีผู้ป่วยสงสัยเสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า และไปขอรับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลปะคำเป็นจำนวนมาก จึงขอประชาสัมพันธ์ดังนี้
1. ในรายที่เสียชีวิต เป็นรายที่สงสัยว่าจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ทั้งนี้ต้องรอการยืนยันผลตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการก่อน
2. ในรายที่เคยถูกสุนัขหรือแมวกัด ข่วน เลีย เกิน 15 วันขึ้นไป และสุนัขหรือแมวยังอยู่เป็นปกติดี ไม่เสียชีวิต ไม่ป่วย หรือไม่หนีหายไปไหน แพทย์ ระบุว่าไม่ต้องฉีดวัคซีน แต่ถ้า สุนัขหรือแมวเสียชีวิตหรือหนีหายไปแล้ว กรณีนี้ ต้องไปพบแพทย์และรับวัคซีน
3. ในรายที่เพิ่งถูกสุนัข หรือแมว กัด ข่วน เลีย สดๆ ร้อนๆ หรือ ณ ปัจจุบัน ขอให้ ล้างแผลด้วยน้ำสบู่หลายๆ ครั้ง ใส่ยา แล้วไป รพ.สต. หรือ รพ. เพื่อให้แพทย์ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข วินิจฉัย
4.ในการฉีดวัคซีนเร่งด่วนตอนนี้คือ ผู้ที่สัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยที่เสียชีวิต ในช่วงวันที่ 14 ก.พ.-16 มี.ค. 61 และคนที่ถูกสุนัข 2 ตัว กัด ข่วน หรือ เลีย(สุนัขของผู้เสียชีวิต)
5. หากมีสัตว์อื่นเสียชีวิตเองที่ผิดปกติเช่น หมู วัว ควาย ห้ามชำแหละเพื่อนำมารับประทาน ขอให้แจ้งให้ปศุสัตว์อำเภอทราบโดยด่วน
6. ฟังประกาศจากผู้นำชุมชน ว่าทางเทศบาล อบต. ปศุสัตว์อำเภอ จะมีการฉีดวัคซีน ให้กับสุนัขหรือแมว ที่ไหน เมื่อไหร่ ขอให้นำสุนัขหรือแมว ไปฉีดวัคซีน ตามวัน เวลาและสถานที่ที่กำหนด